วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ห้องอาหารจีนหยกแนะนำเมนู “หอยเชลล์ผัดซอสหอมมังกร”

ห้องอาหารจีนหยกแนะนำเมนู 

“หอยเชลล์ผัดซอสหอมมังกร”

      ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เชิญชวนชิมเมนูแนะนำช่วงฤดูฝนตลอดเดือนมิถุนายนนี้ด้วย “หอยเชลล์ผัดซอสหอมมังกร” (หอยเชลล์เนื้อเด้งผัดกับถั่วลันเตาสด) เริ่มจากกระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบทุกอย่างที่สดใหม่ มีคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีการปรุงด้วยความใส่ใจทุกขั้นตอน ทำให้เมนูนี้มีรสชาติอร่อย กลมกล่อมได้รับความนิยม สูตรเด็ดโดยเชฟลำพูน ประพฤติธรรม พ่อครัวใหญ่จัดบริการทั้งมื้อกลางวันและเย็น เพียงที่ละ 950 บาทถ้วน พร้อมเมนูตามสั่งอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกอิ่มอร่อย


       โปรโมชั่นพิเศษ!! ลด 15% เฉพาะเมนูตามสั่ง ทั้งมื้อกลางวันและเย็น ตลอดเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น

ห้องอาหารจีนหยก เปิดบริการทุกวัน ระหว่างเวลา 11.30 – 14.30 และ 18.00 – 22.00 น. สำรองโต๊ะล่วงหน้าที่โทร.0-2276-4567 ต่อ 8429 หรือไลน์ @theemeraldhotel และเพจห้องอาหารจีนหยก www.facebook.com/yoktheemerald 


วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 

ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง 

แจกจ่ายน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท


     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์  และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน น้ำปลา และปลากระป๋อง บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวม 600 ชุด พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมี นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ พร้อมด้วยคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดศรีพนมเทียน (ห้วยรวก) ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568


      โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยประชาชนหลังประเทศเกิดภัยธรรมชาติในหลากหลายพื้นที่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย คุณศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัคร จัดทีมพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ราชบุรี และกาญจนบุรี รวม 29 จังหวัด 20,200 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,110,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ออกหน่วยมให้บริการประชาชนฟรีในหลากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก


     ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่างๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568

"หลวงปู่ศิลา" และ "หลวงปู่เวิน" ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล "พญาครุฑ รุ่น มหาปารมี ศรีอุดมทรัพย์ รวย ล้าน ล้าน" วาระที่ ๒ "สราลี" และ "วุฒิศักดิ์" ร่วมพิธีด้วย

 "หลวงปู่ศิลา" และ "หลวงปู่เวิน" ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล

"พญาครุฑ รุ่น มหาปารมี ศรีอุดมทรัพย์ รวย ล้าน ล้าน" วาระที่ ๒

"สราลี"  และ "วุฒิศักดิ์" ร่วมพิธีด้วย


       ดร.หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และ นายวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ ร่วมพิธีอธิฐานจิต วัตถุมงคล "เหรียญพญาครุฑ รุ่น มหาปารมีศรีอุดมทรัพย์ รวย ล้าน ล้าน" วาระ ๒ ณ ธรรมอุทยาน หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เมื่อวันศุกร์ ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘



      โดยภายในพิธี ดร.หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และนายวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ ร่วมกันจุดธูป เทียน เครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย พร้อมถวายแป้งเจิมเทียนฉนวนแด่ พระราชวัชธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท) และ พระครูโสภณวินัยวัฒน์ (หลวงปู่เวิน คุเณสโก) จากนั้นพระสงฆ์ร่วมสวดคาถาจุดเทียนชัย และสวดสาธยายพระคาถาพุทธาภิเษก โดยมี พระราชวัชธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท) และ พระครูโสภณวินัยวัฒน์ (หลวงปู่เวิน คุเณสโก) ร่วมอธิฐานจิตวัตถุมงคล พระภาวนาจารย์ดับเทียนชัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ ขณะพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จากนั้น ดร.หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และนายวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ ร่วมถวายสังฑทาน จตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์



      โอกาสแห่งความมงคลครั้งยิ่งใหญ่ จึงขอเชิญทุกท่านร่วมบูชาเหรียญพญาครุฑ รุ่น "มหาปารมีศรีอุดมทรัพย์ รวย ล้าน ล้าน" ที่จัดสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน และได้รับกรุณาจากพระเดชพระคุณ พระราชวัชรธรรมโสภณ หรือ "หลวงปู่ศิลา สิริจันโท" มาเขียนอักขระยันต์หัวใจครุฑ ที่ด้านหลังเหรียญ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รำลึกและเชิดชูบูชาในปฏิปทานและคุณความดีของบูรพาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี เสริมสิริมงคลและอำนาจบารมี ด้วยพลังแห่งองค์พญาครุฑ หนุนนำโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ด้วยอานุภาพแห่งรุ่น "รวย ล้าน ล้าน" และร่วมสร้างกุศลครั้งใหญ่ เพราะรายได้จากการบูชาเหรียญส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบทุนในหลายโครงการอันเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ได้แก่ พัฒนางานด้านศาสนกิจและเผยแผ่พระธรรมคำสอน ส่งเสริมการศึกษาแก่ภิกษุ สามเณร ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา สนับสนุนมูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสังคม รวมทั้งร่วมสมทบทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดทองทั่ว



      สำหรับท่านที่มีจิตศรัทธา เคารพและบูชาในองค์พญาครุฑ สามารถติดตามรายละเอียดการเช่าบูชา เหรียญพญาครุฑ มหาปารมีศรีอุดมทรัพย์ รวย ล้าน ล้าน ได้ที่เพจของมูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน fb : มูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน และมูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน เลขที่ 8 ซอยรามอินทรา 28 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10230



      อย่ารอช้า! ร่วมบูชาเหรียญพญาครุฑอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญก้าวหน้าในชีวิต พร้อมทั้งได้ร่วมสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ไปพร้อมกัน





วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

"RUN" ชู 3 เสาหลัก นวัตกรรม-ศิลปวัฒนธรรม-ความยั่งยืน นำ 8 ผลงานวิจัยเด่นจาก 8 มหาวิทยาลัยเครือข่ายฯ ร่วมโชว์

"RUN" ชู 3 เสาหลัก นวัตกรรม-ศิลปวัฒนธรรม-ความยั่งยืน 

นำ 8 ผลงานวิจัยเด่นจาก 8 มหาวิทยาลัยเครือข่ายฯ ร่วมโชว์

ในงานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568”

         เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) นำโดยรองศาสตราจารย์ ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานการจัดงาน TRE ภายใต้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย ได้นำงานวิจัยบางส่วนจาก 8 มหาวิทยาลัย เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย มาร่วมจัดแสดงนิทรรศการภายในงานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) ครั้งที่ 20” ณ ห้อง Lotus Suite 1 – 4 ชั้น  22  โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568

     รองศาสตราจารย์ ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานการจัดงาน TRE ภายใต้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย เปิดเผยว่า งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ซึ่งจัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นเวทีระดับชาติที่นำเสนอความก้าวหน้าผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อเชื่อมโยงบูรณาการองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 แล้ว 

       โดยในทุกๆ ปี เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) ได้นำผลงานวิจัยของ 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จุฬามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าร่วมแสดงนิทรรศการมาโดยตลอด ซึ่งพันธกิจหลักของ RUN คือ มุ่งเน้นการประสานความร่วมมือและสร้างความเข้มแข็งในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพ และสร้างขีดความสามารถทางการศึกษาวิจัย และพัฒนาของประเทศ และยกระดับสู่ภูมิภาคอาเซียน 

        รวมทั้งประสานความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพนักวิจัย บัณฑิตศึกษา นักศึกษาและบุคลากรทางการวิจัยในการร่วมกันดำเนินงานทางด้านการวิจัย การแลกเปลี่ยน และใช้ทรัพยากร ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในระหว่างพันธมิตรการวิจัย รวมถึงสร้าง และขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยกับมหาวิทยาลัย ภาครัฐ ภาคเอกชนหรือเครือข่ายอื่นๆ และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่สังคม ภาคผลิตและภาคบริการ

        การใช้ประโยชน์งานวิจัยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชน เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) ได้มีบทบาทร่วมกันในการส่งเสริมให้มีการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์งานวิจัย ก่อให้เกิดผลกระทบในหลายมิติ ทั้งทางด้านวิชาการ เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม 

        ในปีนี้เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) จึงได้จัดกิจกรรมนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม การเสวนาที่บูธนิทรรศการภายใต้ Theme “เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย” (Creative Economy for Thailand Tomorrow) และการจัดบรรยายพิเศษ ภายใต้ หัวข้อ “RUN for Soft Power: Impactful creative economy, high value added by research and innovation” เพื่อผลักดัน Soft Power ผ่านงานวิจัยที่มีศักยภาพ 

พร้อมทั้งยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยสู่ระดับสากล โดยมีอาจารย์/นักวิจัยได้ร่วมนำผลงานวิจัยที่สร้างผลกระทบทั้งทางด้านวิชาการ เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จัดแสดงภายในงานนิทรรศการรวม 24 ผลงาน   โดยแบ่งประเภทการนำเสนอผลงาน 3 ประเภท ได้แก่ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี: แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศ , ศิลปวัฒนธรรม: ส่งเสริม Soft Power ด้วยงานวิจัยที่สะท้อนอัตลักษณ์และความงามทางวัฒนธรรมของไทย, การพัฒนาอย่างยั่งยืน: นำเสนอนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างอนาคตที่มั่นคง

       ทั้งนี้ได้นำผลงานวิจัยเด่น 8 ผลงาน จาก 8 มหาวิทยาลัยเครือข่ายฯ มาร่วมจัดแสดงภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วยได้แก่ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 1.นวัตกรรมการสกัดสารจากสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2.แพ็กแบตเตอรี่สมรรถนะสูงสำหรับรถกอล์ฟไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น 3.ปฏิวัติความหวาน: ยกระดับผลไม้ไทยสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4.การพัฒนาระบบเฝ้าระวังระบบเฝ้าระวังโรคที่เป็นผลกระทบทางสุขภาพจากหมอกควัน และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศระดับอำเภอและจังหวัดเชียงใหม่ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5.ผลของสารสกัดไฟโตแคนนาบินอยด์จากกัญชงในส่วนผสมของน้ำมันไตรกลีเซอไรด์สายกลางที่มีความเข้มข้นกรดลอริคสูงในลูกสุกรน้ำหนักแรกเกิดน้อย จากมหาวิทยาลัยนเรศวร

       ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน 1.การพัฒนาการท่องเที่ยวสัตว์ป่าเพื่อส่งเสริมการจัดการพื้นที่กันชนมรดกโลกห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2.การวิเคราะห์คุณลักษณะ การเกิด อิทธิพลของแหล่งกำเนิด และมาตรการควบคุมที่เหมาะสม เพื่อการจัดการ Secondary particulate ในฝุ่น PM 2.5 เชิงบูรณาการ จากมหาวิทยาลัยมหิดล 3.การพัฒนาต้นแบบการผลิตสาหร่ายขนนกเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

       นอกจากนี้ในวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จะมีจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “RUN for Soft Power: Impactful creative economy, high value added by research and innovation” มีการบรรยายพิเศษ 2 หัวข้อย่อย ได้แก่ การบรรยายพิเศษ เรื่อง Premiumization Soft Power Thai ผ่านงานวิจัย โดย คุณนิติพันธุ์ ดารกานนท์ ประธานบริษัท Sonite Innovative Surfaces และ รองศาสตราจารย์ ดร.ชาคร ประพรหม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ดำเนินรายการ รองศาสตราจารย์ ดร ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล การบรรยายพิเศษ เรื่อง Premiumization Muay Thai by Research and Innovation

       โดย ศาสตราจารย์ ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ (สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ตัวแทนจากบริษัททีวีบูรพา และ ค่ายมวยบัญชาเมฆ ผู้ดำเนินรายการ สพ.ญ. ดร. นิธิรา อนัคกุลและ เสวนา Global Festival ทำให้เจ๋ง ทำให้ปังได้ ต้องมีงานวิจัยขับเคลื่อน? โดย คุณ กราสิก สมิตะสิริ (สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ (สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) และ รองศาสตราจารย์ ดร. จารุวรรณ แดงบุบผา (มหาวิทยาลัยนเรศวร) ผู้ดำเนินรายการ รองศาสตราจารย์ ดร ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล

        ทั้งนี้ขอเชิญชวนอาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมชมการแสดงนิทรรศการผลงานวิจัย ฟังเสนาที่บูธนิทรรศการ ร่วมกิจกรรมรับของรางวัล และฟังการบรรยายพิเศษ ของเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN)  ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) ครั้งที่ 20” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ  


วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไทยสู่ Dental Wellness Hub ระดับสากล

ศูนย์รากฟันเทียมเซรามิกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก

BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย

เสริมศักยภาพด้านทันตกรรมไทยสู่ Dental Wellness Hub ระดับสากล

ผสานเทคโนโลยีทันตกรรมกับศาสตร์ความงามอย่างลงตัว

        บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลัง Straumann Group ประเทศไทย จำกัด บริษัทด้านการปลูกรากฟันเทียมและทันตกรรมความงามจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ผนึกกำลังเดินหน้าตั้ง “ศูนย์รากฟันเทียมเซรามิกแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียแปซิฟิก ที่ได้รับการรับรองโดย บริษัท Straumann” ชูแนวคิด Aesthetic Dentistry ผสานเทคโนโลยีทันตกรรมและศาสตร์ความงาม มุ่งยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพช่องปากแบบองค์รวม พร้อมสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้าน Wellness ระดับโลก ตลอดจนผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Dental Wellness Hub Thailand โดยมี นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Pedro Zwahlen, Ambassador of the Swiss Confederation to Thailand) นาย แพทริก โลห์ สมาชิกคณะกรรมการบริหาร รองประธานบริหาร และหัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group (Mr. Patrick Loh, Member of Executive Management Board, Executive Vice President and Head of Asia Pacific, Straumann Group) ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล รองผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นางสาว ศิริพร ไทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางคลินิก นางสาว จิตรา สังฆกิจ Country Manager บริษัท Straumann Group ประเทศไทย และ นาย ลิป แทน หัวหน้าฝ่ายการเงิน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group (Mr. Lip Tan, Head of Finance Shared Services of Straumann Group APAC, Straumann Group) เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568

           นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบัน แนวคิดเรื่อง “สุขภาพที่ดี” ได้รับการขยายความมากกว่าการไม่มีโรคภัยหรืออาการเจ็บป่วย หากแต่ครอบคลุมถึงการมีสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ การส่งเสริมสุขภาพจึงต้องอาศัยการดูแลแบบองค์รวม อันประกอบด้วยการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การมีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับสุขภาพในด้านที่มักถูกมองข้าม เช่น สุขภาพช่องปาก ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสุขภาวะโดยรวม ทั้งในฐานะด่านแรกของระบบย่อยอาหาร และในฐานะตัวสะท้อนของความสมดุลภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจในตนเอง และคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชน สุขภาพช่องปากที่ดีจึงมิใช่เพียงเรื่องของการดูแลเฉพาะจุด หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุขภาพที่มีความเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ที่ดีในทุก ๆ ด้าน

        “ด้วยวิสัยทัศน์ของ BDMS Wellness Clinic ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญกับการดูแลสุขภาพองค์รวม เราจึงได้จับมือกับ Straumann Group ประเทศไทย เพื่อผสานเทคโนโลยีรากฟันเทียมเซรามิกซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติ ภายใต้การผลิตของบริษัท Straumann เข้ากับศาสตร์ทันตกรรมความงาม ที่ดำเนินการภายใต้ความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านทันตกรรมความงาม ที่ BDMS Wellness Clinic เพื่อดูแลทั้งสุขภาพช่องปากพร้อมส่งเสริมสุขภาพองค์รวมและความมั่นใจให้กับผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมารับบริการด้านทันตกรรม ณ BDMS Wellness Clinic”

         “ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ที่ร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของเราสู่เป้าหมายระดับประเทศในการเป็น Dental Wellness Hub Thailand เพื่อส่งมอบสุขภาพช่องปากที่ดีที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสให้กับผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยว ณ ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Dental Wellness Tourism เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็น Wellness Hub Thailand จุดหมายปลายทางด้านสุขภาพเชิงป้องกันแบบองค์รวมที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับสากล ซึ่งรวมถึงประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมด้วย”

         นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย มีพันธกิจในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และไทยอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนธุรกิจสวิสที่เข้ามาลงทุนในไทยผ่านการให้ข้อมูล การสร้างเครือข่าย และการประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนไทย สถานทูตมุ่งเน้นการส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพ นวัตกรรม และความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศ” 

            นาย แพทริก โลห์ สมาชิกคณะกรรมการบริหาร รองประธานบริหาร และหัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Straumann Group กล่าวว่า “Straumann Group มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดตั้งศูนย์รากฟันเทียม เซรามิก ณ BDMS Wellness Clinic ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับศาสตร์ความงามในการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้ง Straumann Group และ BDMS Wellness Clinic ในการส่งเสริมศักยภาพของทันตแพทย์ไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก และร่วมกันสร้างอนาคตแห่งวงการทันตกรรมทั้งในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาค” 

            เพราะรอยยิ้มของคุณคือแพชชันของเรา: เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการบูรณะรอยยิ้มด้วยรากฟันเทียมเซรามิก เทคโนโลยีล่าสุดที่ผสานศาสตร์แห่งความงามเข้ากับความชำนาญการทางทันตกรรมอย่างลงตัว

             ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล รองผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก กล่าวว่า คลินิกทันตกรรมของ BDMS Wellness Clinic มุ่งมั่นส่งมอบบริการด้านทันตกรรมความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยความตั้งใจที่จะมอบทั้งสุขภาพช่องปากที่ดีและความมั่นใจให้กับผู้รับบริการทุกท่าน โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่ดีรับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันคือ ‘รากฟันเทียมเซรามิก (Zi Ceramic Implant)’ จากแบรนด์ Straumann บริษัทด้านการปลูกรากฟันเทียมและทันตกรรมความงามจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยวัสดุไบโอเซรามิก (Zirconia) ของ Straumann มีจุดเด่นด้านความแข็งแรง ทนทาน และเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในช่องปาก จึงให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว

          นอกจากนี้ รากฟันเทียมเซรามิกยังมีคุณสมบัติด้านความงามที่โดดเด่น ด้วยเฉดสีที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากกว่ารากฟันเทียมประเภทโลหะ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบูรณะฟันบริเวณด้านหน้า อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการแพ้โลหะ ซึ่งเป็นข้อกังวลที่อาจพบได้ในรากฟันเทียมทั่วไป ทำให้เป็นทางเลือกที่ทั้งปลอดภัยแก่ผู้รับบริการทุกคน 

“การเลือกใช้รากฟันเทียมเซรามิกจาก Straumann ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ BDMS Wellness Clinic ในการมอบทางเลือกด้านการบริการการดูแลช่องปากให้กับผู้รับบริการ โดยมุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการใช้งานของฟันควบคู่ไปกับการส่งเสริมภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของผู้รับบริการ ผ่านรอยยิ้มที่มั่นใจ สวยงาม และเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง” ทันตแพทย์หญิงสุชาดา กล่าวเพิ่มเติม

           นอกจากนี้ นางสาว จิตรา สังฆกิจ Country Manager บริษัท Straumann Group ประเทศไทย ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Straumann Group และรากฟันเทียมเซรามิกในงาน โดย Straumann Group เป็นบริษัทชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริษัทมีความชำนาญการการในการวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ทางทันตกรรมในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นรากฟันเทียม เครื่องมือจัดฟันใส วัสดุชีวภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Straumann Group มีวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยยึดมั่นในเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานการดูแลผู้รับบริการระดับสากล 

            ในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) Straumann Group ได้เข้าซื้อหุ้น 49% ของบริษัท Neodent จากประเทศบราซิล และในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด ทำให้ Neodent เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Straumann Group อย่างเต็มตัว ปัจจุบัน Neodent มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 95 ประเทศทั่วโลก

          ในปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) Neodent ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด “Zi Ceramic Implant” ระบบรากฟันเทียมเซรามิก ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ป่วยที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามและสุขภาพช่องปาก รากฟันเทียม Zi Ceramic ผลิตจากเซอร์โคเนียคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรง สีขาวคล้ายรากฟันธรรมชาติ และความเข้ากันได้ดีเยี่ยมกับเนื้อเยื่อในช่องปาก ด้วยการออกแบบรูปทรงเรียวที่เลียนแบบรากฟันธรรมชาติ จึงช่วยให้การรักษาและการฟื้นฟูรอยยิ้มเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

             ความร่วมมือระหว่าง BDMS Wellness Clinic และบริษัท Straumann Group ประเทศไทย จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการรวมพลังเป็น #TeamThailand เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก ตลอดจนตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพบริการด้านสุขภาพและทันตกรรมของไทยในระดับมาตรฐานสากล เพื่อมุ่งสู่การส่งมอบการดูแลสุขภาพองค์รวมที่ยั่งยืนให้แก่ผู้คนทั่วโลก

             ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรากฟันเทียมเซรามิกและบริการทันตกรรมด้าน Aesthetic Dentistry ของ BDMS Wellness Clinic ได้ที่ https://www.bdmswellness.com/



วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568

สจล. จับมือ IIT Bombay มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอินเดีย ขับเคลื่อนความร่วมมือด้าน AI – Robotics – Space Technology

สจล. จับมือ IIT Bombay มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอินเดีย

ขับเคลื่อนความร่วมมือด้าน AI – Robotics – Space Technology

ก้าวสำคัญสู่ “The World Master of Innovation”

        รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี (ขวา) อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการร่วมกับ Prof. Sudarshan Kumar (ซ้าย) คณบดีฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ (Dean of International Relations) จาก Indian Institute of Technology Bombay (IIT Bombay) มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 118 ของโลก ตามการจัดอันดับของ QS World University Rankings ครอบคลุมโครงการแลกเปลี่ยนคณาจารย์ นักศึกษา และกิจกรรมวิจัยร่วมกันระหว่าง 2 สถาบัน และความร่วมมือทางด้านการศึกษา ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence), หุ่นยนต์ (Robotics), และเทคโนโลยีอวกาศ (Space Technology) ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน สจล. สู่การเป็น “The World Master of Innovation” ต่อไป เมื่อเร็วๆ นี้

           ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ สจล. ได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000 






วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

โอกาสเฟอร์นิเจอร์ไทยสู่ตลาดโลก ฟังเทรนด์และทิศทางตลาด Hospitality

โอกาสเฟอร์นิเจอร์ไทยสู่ตลาดโลก

ฟังเทรนด์และทิศทางตลาด Hospitality 

โดยผู้เชี่ยวชาญรับเชิญจากอิตาลี Matteo Ragni

          “STYLE Bangkok 2025” กลับมาแล้ว ในการเป็นศูนย์รวมเทรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการ นักออกแบบ ผู้ซื้อ และผู้ที่สนใจจากทั่วโลก ด้วยสินค้าจากผู้ประกอบการกว่า 400 ราย ร่วม 700 คูหา พร้อมไฮไลต์ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยในปีนี้ ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญชื่อดังชาวอิตาเลียนมาบรรยายในช่วงสัมมนาพิเศษถึงเทรนด์และโอกาสเฟอร์นิเจอร์ไทยในตลาดโลก ในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟรี 

            กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อ  “New Trends in Contemporary Design: Opportunities and Insights for Thai Entrepreneurs in a Global Market” โดย Mr. Matteo Ragni ดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาเลียน จัดที่เวทีกลาง ฮอลล์ 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.30-12.00 น. 

           Mr. Matteo Ragni คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการออกแบบมากว่า 20 ปี เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล Compasso d’Oro Award ในวัย 29 ปี  ทำงานเป็นทั้งดีไซเนอร์และครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ในเวลาเดียวกัน โดยตั้งคำถามต่อประเด็นของฟังก์ชั่นกับความเป็นนวัตกรรม ปัจจุบันได้ไปบรรยายความรู้ ณ ที่ต่างๆหลายแห่งทั่วโลก

           Mr. Matteo เป็นที่ปรึกษาโครงการ Host & Home ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการพัฒนาสินค้า และเจาะตลาด Hospitality ในอิตาลีและในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพและมีชื่อเสียงที่ดีในกลุ่มธุรกิจ โรงแรมและที่พักอาศัย โดยนำผู้ประกอบการไทย กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านและโรงแรม และกลุ่มเคหะสิ่งทอ เข้าร่วมพัฒนาสินค้าเชิงลึกกับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำผู้ประกอบการไปจัดแสดงยังงาน Salone Del Mobile ซึ่งเป็นแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งบ้านระดับโลก ที่จัดคู่ขนานไปกับงาน Milan Design Week ทั้งสองงาน เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงด้านการนำเสนอสินค้าที่เน้นการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์จากทั่วโลก รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสินค้าเพื่ออนาคต โครงการ Host & Home เป็นโครงการต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการ และได้รับการพัฒนาสินค้าตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแล้วมากมาย 

         สินค้าไทยได้รับการตอบรับจากผู้จัดจำหน่าย รีสอร์ต โรงแรม นักออกแบบ ธุรกิจเรือยอร์ช ฯลฯ เป็นอย่างดี รวมถึงมียอดสั่งซื้อภายใน 1 ปีหลายสิบล้านบาท  เนื่องด้วยสินค้าไทยมีเอกลักษณ์ ดีไซน์ทันสมัย สินค้ามีความหลากหลาย และสามารถใช้งานได้จริง มีการนำเอาวัสดุที่เหลือใช้นำกลับมาใช้ใหม่ ให้ความสำคัญกับวัสดุที่ใช้ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความยั่งยืนตามแนวโน้มเรื่อง Sustainability ที่ตลาดยุโรปให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

           อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 70 ของการผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของไทยที่น่าจับตามอง เนื่องจากยังคงมีโอกาสเติบโตอีกมากตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และยังมีความเกี่ยวเนื่องกับหลายภาคส่วน อาทิ อุตสาหกรรมไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมพลาสติก ฯลฯ ซึ่งจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลก อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น

            มาร่วมอัพเดทเทรนด์และโอกาสของเฟอร์นิเจอร์ไทยในตลาดยุโรปและในตลาดโลก ในสัมมนาพิเศษ “New Trends in Contemporary Design : Opportunities and Insights for Thai Entrepreneurs in a Global Market” โดย Mr. Matteo Ragni ในงาน “STYLE Bangkok 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เมษายน 2568 สำรองที่นั่งสัมมนาฟรี ที่ https://forms.gle/11udo1D5gZB12jfL9 หรือชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.stylebangkokfair.com 


                                                                                                             

ห้องอาหารจีนหยกแนะนำเมนู “หอยเชลล์ผัดซอสหอมมังกร”

ห้องอาหารจีนหยกแนะนำเมนู  “หอยเชลล์ผัดซอสหอมมังกร”       ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เชิญชวนชิมเมนูแนะนำช่วงฤดูฝนตลอดเดือนมิถุนายน...