ททท. จับมือสายการบินแอร์อัสตาน่า จัดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงจากเมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซัคสถาน สู่ภูเก็ตเป็นครั้งแรก

ททท. จับมือสายการบินแอร์อัสตาน่า จัดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงจากเมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซัคสถาน สู่ภูเก็ตเป็นครั้งแรก

              สายการบินแอร์อัสตาน่า จัดเที่ยวบินปฐมฤกษ์บินตรงจากประเทศคาซัคสถานสู่จังหวัดภูเก็ตเป็นครั้งแรก โดยมีผู้โดยสารจำนวนกว่า 165 ราย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ (Phuket Sandbox) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564

              แอร์อัสตานา จะทำการบินเส้นทางอัลมาตี-ภูเก็ต ด้วยความถี่ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอาทิตย์ และวันพฤหัสบดี

              นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ประเทศคาซัคสถานและกลุ่มประเทศเอเชียกลาง เป็นอีกกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพในการเดินทางเข้าท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่น่าจับตามองเช่นกัน นับว่าเป็นโอกาสอันดีของจังหวัดภูเก็ตในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ โดยสารการบินแอร์อัสตาน่า ได้จัดเที่ยวบินในการเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตในเดือนพฤศจิกายนสูงสุด 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจากที่ทาง ททท. ภูเก็ตได้รับรายงานงาน ยังคงมีอีกกว่า 6 สายการบินรอจ่อบินเข้ามาในเดือนพฤศจิกายน 2564

               ทั้งนี้ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ ได้รับเกียรติจากคุณ Bella Tormysheva ตำแหน่ง Vice-president of Corporate Communications ของสายการบิน Air Astana เดินทางร่วมในเที่ยวบินนี้โดย ผอ. ททท. สำนักงานภูเก็ต ได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับประเด็นทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน และสถานการณ์การท่องเที่ยวในโครงการ Phuket Sandbox และทางคุณ Bella Tormysheva ได้แจ้งว่าจำนวนเที่ยวบินของสายการบินจะมีความถี่เพิ่มขึ้นและกล่าวขอบคุณจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

 

เวียตเจ็ท ชวนบินเที่ยวงานเชียงรายดอกไม้งาม ชมความงามดอกไม้นานาพันธุ์ สุวรรณภูมิ /ภูเก็ต/ หาดใหญ่ บินตรงเชียงราย แค่ 555 บาท

เวียตเจ็ท ชวนบินเที่ยวงานเชียงรายดอกไม้งาม ชมความงามดอกไม้นานาพันธุ์ สุวรรณภูมิ

/ภูเก็ต/ หาดใหญ่ บินตรงเชียงราย แค่ 555 บาท

สายการบินไทยเวียตเจ็ทเชิญชวนเที่ยวชมสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ ท่ามกลางอากาศเย็นสบายในงาน "เชียงรายดอกไม้งาม" ซึ่งรังสรรค์โดยคุณวันชัย และคุณรัตนา จงสุทธานามณี ทำให้งานเชียงรายดอกไม้งาม สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดเชียงรายมานานนับปี จัดโดยเทศบาลนครเชียงราย ณ สวนตุงและโคมนตรเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 - 31 มกราคม 2565

                   ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางไปกับไทยเวียตเจ็ทอย่างสะดวกสบาย ด้วย 3 เส้นทางบินตรงสู่เชียงรายจาก สุวรรณภูมิ ภูเก็ต และ หาดใหญ่ โปรโมชั่นบัตรโดยสารแบบดีลักซ์ (Deluxe) พร้อมบริการครบครัน รวมน้ำหนักสัมภาระโหลด 20 กก. ได้เช็คอินก่อนใครในช่องงทางงงพิเศษ เลือกที่นั่งฟรี และรับสิทธิ์เปลี่ยนเที่ยวบินโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 555 บาท/ เที่ยวเดียว (ไม่รวมภาษีและค่าธรรมนียม/ เมื่อรวมแล้วเริ่มต้นพียง 980 บาท/ เที่ยวเดียว) ที่ www.vietjetair.com เพื่อใช้เดินทางระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – 31 มกราคม 2565 (ที่นั่งมีจำกัดและอาจไม่มีในวันหยุดนักขัตฤกษ์) ผู้โดยสารที่เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ยังได้รับสิทธิประโยชน์เงินคืน 40% ตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด

      สายการบินไทยเวียตเจ็ท เพิ่มเที่ยวบินให้บริการในเส้นทาง สุวรรณภูมิ – เชียงราย (ไปและกลับ) ทุกวัน สูงสุด 4 เที่ยวบิน/ วัน ซึ่งถือว่าเป็นสายการบินที่มีเที่ยวบินให้บริการสู่เชียงรายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 พร้อมทั้งประกาศกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงเชื่อมเส้นทางข้ามภูมิภาค เชียงราย – ภูเก็ต และ เชียงราย – หาดใหญ่ ตั้งแต่วันที 3 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ทั้ง 2 เส้นทางกำหนดทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์

สทท. จัดประชุมคณะกรรมการสภาฯ ในประเด็น “เอกชน พร้อมเปิดเมือง 1พฤศจืกายน 2564”

สทท. จัดประชุมคณะกรรมการสภาฯ ในประเด็น “เอกชน พร้อมเปิดเมือง 1พฤศจืกายน 2564”

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) นำโดยนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ จัดประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในประเด็น “เอกชน พร้อมเปิดเมือง 1พฤศจืกายน 2564” นี้ ณ ห้องสุพรรณหงส์ ชั้น 10 อาคารการท่องเทียวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 64

 โดยมีการประชุมประเด็น “เอกชน พร้อมเปิดเมือง 1พฤศจืกายน 2564” มีหัวข้อสำคัญดังนี้คือ

-Update ความพร้อม พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน

-ไทยเที่ยวไทย ต้องเริ่มก่อน

-Halal Tourism ต้องเริ่มเดินต่อ

-wellness & Medical Tourism ต้องทำ

-ATK 30,000 ชุด ตรวจฟรี-เตรียมความพร้อมเปิดเมือง 1 พ.ย.นี้

“เอกชน-ต้องร่วมกันสร้างความเชื่อมั่น โดยให้ความร่วมมือ การ์ดอย่าตก เดินหน้าท่องเที่ยวไทย  อย่างระมัดระวัง เป็นกำลังใจให้”

#สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และสำรวจเส้นทาง และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอสบเมย

ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และสำรวจเส้นทาง และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอสบเมย

                     ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่พบปะ พูดคุย และปรึกษาหารือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว พร้อมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่โซนใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แก่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอสบเมย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564

               ในการลงพื้นที่ครั้งนี้มีนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอกสันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮองสอน และนายภาณุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ตลอดจนทีมงานของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน รวมทั้งสื่อมวลชน ร่วมลงพื้นที่ด้วย

พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลแนวทางการพัฒาและส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายอาคม จำลองศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลแม่ลาน้อย พร้อมด้วยทีมงานให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูล

                  และได้ลงพื้นที่จุดชมวิว "ที่นี่แม่ลาน้อย" เพื่อสรุปแนวทางการพัฒนาแหล่งและกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่เตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ก็จะขึ้นไปสำรวจและประสานงานเตรียมความพร้อม และความปลอดภัยในพื้นที่ "กลอเซโล" ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชมวิวกางเต๊นท์ ที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยมอย่างสูงของนักท่องเที่ยว

ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ทุกวันเพื่อสำรวจแหล่งท่องเทึ่ยวในพื้นที่จังหวัด สุพรรณบุรี และอ่างทอง ตามโครงการสนุกทุกวัน สุพรรณบุรี-อ่างทอง

ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ทุกวันเพื่อสำรวจแหล่งท่องเทึ่ยวในพื้นที่จังหวัด สุพรรณบุรี และอ่างทอง ตามโครงการสนุกทุกวัน สุพรรณบุรี-อ่างทอง

          นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัด สุพรรณบุรี และจังหวัดอ่างทอง ตามฟโครงการสนุกทุกวัน สุพรรณบุรี-อ่างทอง เพื่อเตรียมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเสนอขายตามแผนโครงการ 2565 และ สสพ. ได้ประชาสัมพันธ์มาตรฐาน SHA & safety travel และการสมัคร SHA เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564

โดยวันนี้ได้ลงพื้นที่ เริ่มด้วยร้าน Coffee Today อำเภอเดิมบางนางบวช เป็นร้านที่มี ชา-กาแฟ หอม รสชาติกลมกล่อม เค้กก็อร่อย บรรยากาศโดยรวมก็ดี มีห้องแอร์ให้นั่งเย็นๆ  มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก มีแปลงดอกไม้ให้เซลฟี่

Ricker’s Cafe อำเภอสามชุก บรรยากาศด้านนอกตัวร้านทำเป็นอาคาร 2 ชั้นแยกจากกันมีระเบียงชั้นบนที่เชื่อมตัวอาคารทั้ง 2 เข้าด้วยกัน การตกแต่งภายนอกผสมผสานความเป็นล็อฟต์จากงานเหล็กและไม้

ร้านอาหารกุ้งเป็น อำเภอสามชุก ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมานาน โดยเฉพาะเมนูกุ้ง ที่คัดเลือกกุ้งสดคุณภาพดี ราคาก็สมควรกับคุณภาพ ในบรรยากาศริมแม่น้ำท่าจีน มื้อกลางวัน หรือช่วงเวลาเย็นคงเหมาะสำหรับการแวะชิมอาหารรสชาดดี ก่อนเดินทางกลับ นอกจากเมนูกุ้ง โดยเฉพาะกุ้งใหญ่เผา ก็ยังมีอีกหลายเมนูที่เป็นที่นิยม อย่างเมนูปลาแม่น้ำ น้ำพริกกุ้งสด ทอดมันปลากราย ปลาม้า ปลาคัง ฯลฯ

       พร้อมต้อนรับคณะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 88 คน ที่เดินทางมาศึกษาดูงานการเรียนรู้วิถีชีวิตการทำนา และคณะนักเรียนจากประเทศญี่ปุ่นเที่ยวชมวิถีเกษตรไทย ณ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย - นาเฮียใช้ ตามโครงการ เที่ยวสุขใจไปด้วยกัน สุพรรณบุรี - อ่างทอง

ตามด้วยร้าน No.5 cafe’ Suphanburi คาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศน่ารักด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของการนำเอาอิฐและเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยมาใส่ไว้ด้วยกันในร้าน ให้บรรยากาศดูดีมีสีสันขึ้นเข้ากับกำแพงอิฐสีขาวได้เป็นอย่างดี ภายในร้านก็มีมุมเด็ดๆ มากมายให้เลือกนั่งกัน หรือใครอยากออกมาพักผ่อนตรงสนามหญ้าก็ดีไม่แพ้กัน ในส่วนของเมนูอาหารก็มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ราคาสบายกระเป๋าเหมาะไปนั่งชิลล์สุดๆ

ต่อด้วยร้านอาหารนิรมิต เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งแบบสบายๆ ร่มรื่น สามารถมองเห็นแม่น้ำยามนั่งรับประทานอาหาร เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเน้นอาหารประเภทปลา ปลาแม่น้ำจืดรสชาติอร่อย แถมราคาไม่แพง นอกจากอาหารคาวแล้ว ยังมีการจำหน่ายของฝากมากมาย เช่น ขนมต่างๆที่ขึ้นชื่อของร้านอีกด้วย หากใครผ่านมาทางอ่างทอง เชิญแวะทานอาหาร และซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากคนรู้ใจ

เรือนรับขวัญ เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหาร ที่พักสุดหรู โดยจุดเด่นที่สวยงามของที่นี่ก็คือ เรือนไทยคหบดี ถ้าใครคิดไม่ออกว่าสวยแบบไหน ก็เหมือนใน ละครออเจ้า นั้นเลยจ้า โดยตัวเรือนไทยสวยมากๆ มีสระน้ำอยู่ด้านหน้ามีศาลาริมน้ำด้วยเก๋สุดๆ ที่เรือนรับขวัญ มีบริการทั้ง อาหารไทยสูตรโบราณ และ เครื่องดื่มสไตล์คาเฟ่ อาหารไทย อร่อยมากๆ

#ทริปเที่ยวใกล้สุพรรณ&อ่างทอง

#ThailandIMissYou สุพรรณ&อ่างทอง

#เที่ยวสนุกสบายกระเป๋าสุพรรณบุรี&อ่างทอง

ตรัง Young หรอย วัคซีน 2 โดส เที่ยวได้โชค

ตรัง Young หรอย วัคซีน  2 โดส เที่ยวได้โชค

       การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมาคึกคัก วัคซีน  2 โดส เที่ยวได้โชค ต้องมา “ตรัง” ตรัง Young หรอย

โดยมีเงื่อนไขง่ายๆ เพียงใช้จ่ายสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน SHA ในจังหวัดตรัง และผู้ใช้จ่ายได้รับวัคซีนครบโดส 2 เข็ม

ใช้จ่ายครบ 1,000 บาท แลกรับเสื้อ “ตรังยังหรอย” ไปใส่เก๋ๆ

ใช้จ่ายครบ 1,500 บาท ขึ้นไป แลกรับทั้งเสื้อและร่มตรังยุทธจักรความอร่อย ไปกางแบบชิคๆคูลๆ

        เพียงแสดงหลักฐานใบเสร็จการใช้จ่ายและแลกรับของที่ระลึกได้ที่ ททท.สำนักงานตรัง

**แลกรับได้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์**

**จำกัดเพียง 500 สิทธิ์ เท่านั้น**

       ตรวจสอบรายชื่อสถานประกอบการจังหวัดตรังที่ผ่านมาตรฐาน SHA คลิกเลย > https://1th.me/hZjxv

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

FB Fanpage: TAT Trang ททท.สำนักงานตรัง

Line: @amazingtrang

        เงื่อนไขเป็นไปตามที่ ททท.สำนักตรัง กำหนด

#ตรังYoungหรอย

#TATTrang

#ThailandSHA

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากภาวะ Long COVID

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากภาวะ Long COVID

             ลองโควิด (Long COVID) คืออาการตกค้างที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่มีการติดเชื้อ COVID–19 มากกว่า 4 – 12 สัปดาห์แล้วหายในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ถ้ามีอาการของลองโควิดแล้วจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เพราะอาจจะสามารถเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ หากรู้สาเหตุและการป้องกันจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที

            นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ หัวหน้าศูนย์ตรวจสมรรถภาพหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า COVID - 19 มีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หากป่วยด้วยโรคหัวใจอยู่แล้วและติดเชื้อจะทำให้อาการรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อนที่สูงกว่าคนทั่วไป เมื่อได้รับเชื้อแล้ว ผลที่จะสามารถเกิดขึ้นได้โดยตรงกับหัวใจคือ ขณะที่ได้รับเชื้อและร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อ อาจมีภาวะที่เรียกว่า เกิดภูมิต้านทานของตัวเองต่อกล้ามเนื้อหัวใจและต่อเยื่อหุ้มหัวใจ ที่จะส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรงและการทำงานและการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง ซึ่งยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่ชัดเจนว่าสามารถเจอได้มากน้อยเพียงใด ในบางการศึกษารายงานว่า สามารถพบการเสียชีวิตของการติดเชื้อ COVID–19 ที่ส่งผลโดยตรงกับหัวใจ ได้ 7 - 10% และในผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรงพบว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้มากถึง 40% ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบยังสามารถพบได้จากการฉีดวัคซีน COVID-19 เช่นเดียวกัน แต่พบได้ไม่บ่อยนักและส่วนมากจะพบได้ในการฉีดวัคซีนชนิด mRNA โดยเฉพาะหลังจากฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้ว 3 วัน จนถึง 2 สัปดาห์ เกือบทั้งหมดตรวจพบความผิดปกติเล็กน้อยจากการเจาะเลือดหรือตรวจด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเกือบทั้งหมดหายได้เองและหายสนิท ซึ่งตัวเลขจากการศึกษาพบเพียงประมาณ 1 ใน 100,000 ถึง 200,000 คน ซึ่งจากรายงานพบว่าภาวะดังกล่าวไม่ได้มีความรุนแรง

            อาการลองโควิดที่แสดงออกเกี่ยวกับหัวใจ คือ ใจสั่น เหนื่อย เพลีย หรือบางครั้งอาจมีอาการเจ็บหน้าอก การเจ็บหน้าอกจะไม่เฉพาะเจาะจง บางคนมีหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่มีการรักษาเฉพาะเจาะจง แต่อาจมีการตรวจเลือด หรือทำภาพสแกน หรือ MRI เพื่อดูความผิดปกติของโครงสร้างของหัวใจและยังไม่มีมาตรฐานการรักษาที่ชัดเจนในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์โรคหัวใจ จากรายงานยังสามารถพบได้อีกว่า อาการที่อาจพบร่วมด้วยของการเป็นลองโควิดอยู่ในกลุ่มเดียวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าพบอุบัติการณ์ของการเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังติดเชื้อ COVID-19 มากน้อยเพียงใด แต่พบน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการมีภาวะแทรกซ้อนขณะที่กำลังมีการติดเชื้อ COVID-19

       อย่างไรก็ตามเมื่อหายจาก COVID-19 ต้องหมั่นสังเกตอาการและดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติหรือมีข้อสงสัยที่คิดว่าอาจจะมีความเสี่ยงควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กทันที โดยเฉพาะสุขภาพหัวใจเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ รพ.หัวใจกรุงเทพ โทร. 080 1919019 Contact Center โทร. 1719  หรือ HEART CARE LINE Official : @hearthospital 

MR.D.I.Y. ฉลองเปิดร้าน สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ลูกค้า 100 คนแรกรับฟรีกล่องข้าวสุญญากาศ

MR.D.I.Y. ฉลองเปิดร้าน สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ลูกค้า 100 คนแรกรับฟรีกล่องข้าวสุญญากาศ

         ฉลองเปิดสาขาใหม่อย่างเป็นทางการของร้าน MR.D.I.Y. ศูนย์รวมของใช้ในบ้านที่มีให้เลือกซื้อกันแบบครบครัน ซึ่งได้เตรียมของขวัญจากใจส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า พิเศษ!! สำหรับ 100 ท่านแรก รับฟรีกล่องข้าวสุญญากาศ มาก่อนได้สิทธิ์ก่อน พบกันที่ ชั้น 5 โซน A ในวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 11.30 น. จากนั้นเข้าไปช้อปกันจุใจกับทัพสินค้ากว่า 18,000 รายการ และ โปรโมชันสุดคุ้มจากทางร้าน

      เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ (MBK CENTER) แหล่งรวมความพิเศษเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ และเตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ เร็วๆ นี้ โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง รายละเอียดร้านค้าเปิดใหม่ กิจกรรมต่างๆ และโปรโมชั่นที่น่าสนใจได้ที่ www.mbk-center.co.th  

ตรวจเยี่ยมสถานที่และบุคลากร ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ตรวจเยี่ยมสถานที่และบุคลากร ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

               พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย, น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นาย กิติพงศ์ กิติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมคณะฯ และ พ.ต.อ. สุรชัช สุวรรณศรี ผกก.3 บก.ทท.1, พ.ต.ท.อัครพัชร์ ทองศรีวานิช รอง ผกก.3 บก.ทท.1 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ดูแลความสงบเรียบร้อยสถานที่และบุคลากรในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564                                             

                พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้แทนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่สำรวจการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เขตคลองเตย

             โดยคณะฯ ได้ตรวจการเตรียมพร้อมบริเวณจุดตรวจ Scan QR Code Thailand Pass ของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารเทียบเครื่องบิน C กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จุดตรวจหนังสือเดินทางฝั่งตะวันตก จุดนัดพบระหว่างผู้โดยสารและโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative Quarantine) ณ ช่องทางออก C โถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร รวมทั้งสำรวจความพร้อมด้านการบริหารจัดการระบบขนส่งสำหรับนักท่องเที่ยวบริเวณประตู 9 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

        จากนั้นคณะฯ เดินทางไปโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เพื่อสำรวจความพร้อมมาตรฐานการบริหารจัดการห้องพัก พื้นที่สาธารณะ สระว่ายน้ำ สปา และร้านอาหาร ตามมาตรการสาธารณสุข และมาตรฐาน Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) และ (SHA+) ซึ่งโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เป็นโรงแรมผ่านเกณฑ์มาตรฐาน SHA Plus (SHA+) คือ ความพร้อมของผู้ประกอบการ เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากต่างประเทศในโครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งพนักงานในสถานประกอบการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับผู้รับบริการ ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานซึ่งทางหน่วยงานราชการกำหนดด้วยความเคร่งครัด

           พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยในมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยว จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่กับคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนถึงสถานที่พัก ซึ่งภาพรวมพบว่าทุกหน่วยงานได้เตรียมพร้อม 100% รวมถึงการให้บริการฉีดวัคซีนของ กทม. ได้ฉีดให้คนกรุงเทพฯ เข็มที่ 1 เกินกว่า 100% แล้ว ส่วนวัคซีนเข็ม 2 ฉีดแล้ว 74.90% ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาเที่ยวในกรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพฯ ปลอดภัย และประชาชนในกรุงเทพฯ ก็มั่นใจในขั้นตอนการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับความพร้อมตั้งแต่นักท่องเที่ยวลงจากเครื่องบิน ขั้นตอนการตรวจสอบ จนถึงการเดินทางไปยังโรงแรมที่จัดเตรียมไว้กระบวนการต่างๆ ถือว่าพร้อมมาก

          นอกจากนี้ หากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ กทม. ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุไว้เรียบร้อย ทั้งมาตรการในการนำส่งรักษา มาตรการในส่งกลับ รวมถึงจัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อดำเนินการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตามระบบการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ในปัจจุบัน สำนักการแพทย์ กทม. มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสังกัด 11 แห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของหน่วยงานราชการในพื้นที่ โรงเรียนแพทย์ ซึ่งมีขีดความสามารถในการดูแลรักษา ดังนั้นประเด็นการรักษาพยาบาลจึงถือว่ามีพร้อมมากด้วยเช่นกัน